ความสำคัญของการตรวจประวัติอาชญากรรมก่อนไปทำงานบนเรือสำราญ

การทำงานบนเรือสำราญเป็นอาชีพที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของผู้โดยสารหลายพันคน ลูกเรือนับพัน และทรัพย์สินจำนวนมาก จึงเป็นอุตสาหกรรมที่ต้องมีมาตรการคัดกรองบุคลากรอย่างเข้มงวด หนึ่งในขั้นตอนสำคัญที่สายเรือทั่วโลกกำหนดคือ การตรวจประวัติอาชญากรรม (Criminal Background Check) ก่อนรับเข้าทำงาน

มาตรฐานนี้ไม่ใช่แค่เพื่อความปลอดภัยของบริษัท แต่ยังปกป้องลูกเรือทุกคนที่อยู่ร่วมกันบนเรือด้วย เพราะเรือสำราญคือพื้นที่ปิดที่แล่นอยู่กลางมหาสมุทร หากเกิดเรื่องร้ายแรงขึ้น การควบคุมสถานการณ์จะยากกว่าสถานที่บนแผ่นดินมาก

1. ทำไมต้องตรวจประวัติอาชญากรรมก่อนทำงานบนเรือสำราญ

1.1 เรือสำราญคือพื้นที่ปิด (Closed Environment)

บนเรือมีผู้โดยสารและลูกเรือหลายพันคนอาศัยอยู่ร่วมกันในพื้นที่จำกัด การมีบุคคลที่มีประวัติอาชญากรรมร้ายแรงขึ้นเรือ อาจส่งผลต่อความปลอดภัยโดยตรง เช่น

• การใช้ความรุนแรง

• การลักทรัพย์

• การคุกคามทางเพศ

• การทำร้ายร่างกาย

เรือไม่ต้องการให้มีความเสี่ยงในระดับนี้เกิดขึ้นแม้เพียงเล็กน้อย

1.2 ความปลอดภัยของผู้โดยสารคืออันดับ 1

เรือสำราญคือธุรกิจท่องเที่ยวระดับพรีเมียม ผู้โดยสารคาดหวังถึงมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด บริษัทจึงต้องมั่นใจว่า:

• ลูกเรือไม่เคยกระทำความผิดร้ายแรง

• ไม่มีประวัติคดียาเสพติด

• ไม่มีประวัติอาชญากรรมทางเพศ

• ไม่มีประวัติทำร้ายผู้อื่น

มาตรฐานนี้มีผลต่อชื่อเสียงบริษัทแบบโดยตรง

1.3 เป็นข้อกำหนดของกฎหมายเดินเรือหลายประเทศ

ประเทศที่มีท่าเรือขนาดใหญ่ เช่น

• สหรัฐอเมริกา

• แคนาดา

• ออสเตรเลีย

• ประเทศในสหภาพยุโรป

กำหนดให้ลูกเรือทุกคนต้องผ่านการตรวจประวัติอาชญากรรมก่อนขึ้นเรือ เพื่อป้องกันเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ในเขตแดนของตัวเอง

1.4 เพื่อปกป้องลูกเรือด้วยกันเอง

ลูกเรือมาจากหลายเชื้อชาติ หลายวัฒนธรรม ต้องแชร์พื้นที่ทำงานและพักอาศัยร่วมกัน การคัดกรองผู้ที่มีประวัติคดีร้ายแรงออก ช่วยลดความเสี่ยงของเหตุการณ์ เช่น

• การทะเลาะวิวาทรุนแรง

• การขโมยของใน Crew Cabin

• การคุกคามในที่พักลูกเรือ

บรรยากาศการทำงานปลอดภัยขึ้นอย่างมาก

2. ตรวจประวัติอาชญากรรมมีขั้นตอนอย่างไร?

2.1 ยื่นคำขอที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สำหรับคนไทย)

ผู้สมัครต้องยื่นขอตรวจประวัติที่

• กองทะเบียนประวัติอาชญากร (ลาดพร้าว)

• หรือสถานีตำรวจ/ศูนย์บริการที่มีบริการรับเรื่อง

เอกสารที่ใช้ประกอบ:

• บัตรประชาชน

• หนังสือเดินทาง

• ใบสมัครงานจากบริษัทเรือสำราญ

• รูปถ่ายตามที่กำหนด

2.2 ระบบตรวจสอบผ่านฐานข้อมูลกลาง

เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบผ่านฐานข้อมูลระดับประเทศ เช่น

• คดีอาญา

• คดีแพ่งบางประเภท

• คดีเกี่ยวกับร่างกาย

• คดีเกี่ยวกับยาเสพติด

• คดีเกี่ยวกับทรัพย์

• คดีล่วงละเมิดทางเพศ

หากพบประวัติคดีที่ร้ายแรงหรือเกี่ยวกับความปลอดภัยโดยตรง อาจถูกปฏิเสธจากสายเรือ

2.3 ออกเอกสาร “ใบรับรองความประพฤติ” (Police Clearance Certificate)

เอกสารนี้จะระบุว่า “ไม่มีประวัติอาชญากรรม” หรือ “มีประวัติอาชญากรรม” พร้อมรายละเอียด”

สายเรือและสถานทูตจะใช้เอกสารนี้ประกอบการพิจารณา

3. ประเภทคดีที่ทำให้ไม่ผ่านการตรวจอย่างแน่นอน

• คดีเกี่ยวกับความรุนแรงต่อผู้อื่น (ทำร้ายร่างกาย, ฆ่าผู้อื่น)

• คดีล่วงละเมิดทางเพศ หรือคดีเกี่ยวกับศีลธรรม

• คดีเกี่ยวกับยาเสพติด (ผลิต–ค้า–ส่ง–เสพระดับรุนแรง)

• คดีเกี่ยวกับทรัพย์ร้ายแรง เช่น ปล้น, วิ่งราว, ลักทรัพย์ซ้ำซ้อน

• คดีฉ้อโกงองค์กรหรือเงินจำนวนมาก

• คดีที่ยังคงอยู่ในชั้นศาลหรือยังไม่ถูกปิดคดี

สายเรือส่วนมากมีนโยบาย “Zero Tolerance” สำหรับคดีเหล่านี้

4. คดีเล็กน้อยบางประเภทอาจไม่ถูกปฏิเสธเสมอไป

กรณีที่เกิดขึ้นเป็นบางครั้ง ได้แก่

• คดีทะเลาะวิวาทเล็กน้อย

• คดีจราจรที่ไม่มีผู้เสียชีวิต

• ความผิดที่เกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อนและได้รับการยกฟ้อง

แต่ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของบริษัทเรือสำราญแต่ละแห่ง

5. ทำไมบริษัทเรือสำราญต้องเข้มงวดมากกับประวัติอาชญากรรม

5.1 ป้องกันอาชญากรรมบนเรือ

เรือสำราญเป็นพื้นที่ที่ตรวจสอบยากกว่าโรงแรมบนแผ่นดิน หากเกิดเหตุการณ์รุนแรง การช่วยเหลือจะช้ากว่า

5.2 สร้างความมั่นใจให้ผู้โดยสาร

บริษัทต้องแสดงให้เห็นว่า “ลูกเรือทุกคนมีความประพฤติดีและปลอดภัยในการทำงานร่วมกับผู้โดยสาร”

5.3 ลดความเสี่ยงต่อการเกิดคดีในต่างประเทศ

หากลูกเรือทำผิดในประเทศที่เรือจอด บริษัทจะมีความรับผิดชอบทางกฎหมายจำนวนมาก

5.4 เป็นมาตรฐานสากลที่ทุกสายเรือปฏิบัติร่วมกัน

เพื่อความปลอดภัยระดับนานาชาติ (International Maritime Standard)

6. การมีประวัติอาชญากรรมมีผลต่อการขอวีซ่าเรือสำราญด้วย

ทั้ง Visa C1D (USA) และ Visa Schengen (EU) มีการตรวจสอบประวัติเช่นกัน

หากพบประวัติอาชญากรรมร้ายแรง สถานทูตอาจ:

• ปฏิเสธการออกวีซ่า

• เรียกสอบเพิ่มเติม

• ขอหลักฐานประกอบเพิ่มเติม

ดังนั้น การตรวจประวัติอาชญากรรมจึงเป็นส่วนหนึ่งของขั้นตอนยื่นวีซ่าด้วย

7. ข้อดีของการตรวจประวัติอาชญากรรมสำหรับลูกเรือ

✔ แสดงตัวตนว่ามีความประพฤติดี

✔ เพิ่มโอกาสผ่านการคัดเลือก

✔ สร้างความเชื่อมั่นให้สายเรือและเจ้าหน้าที่

✔ เป็นหลักฐานสำคัญสำหรับใช้ยื่นวีซ่า

✔ ปลอดภัยต่อตัวเองและเพื่อนร่วมงานบนเรือ

8. สรุปความสำคัญ

การตรวจประวัติอาชญากรรมเป็นขั้นตอนที่ช่วยรับรองว่า “ผู้สมัครมีความประพฤติดี มีจรรยาบรรณ และมีความปลอดภัยต่อสังคมบนเรือ” ลูกเรือที่ผ่านการตรวจนี้จะได้รับความไว้วางใจจากทั้งสายเรือ ผู้โดยสาร และเพื่อนร่วมงาน ในอุตสาหกรรมที่ต้องทำงานในพื้นที่ปิดและพึ่งพาซึ่งกันและกันสูง ความปลอดภัยคือสิ่งที่สำคัญที่สุด การตรวจประวัติอาชญากรรมจึงเป็นมาตรฐานที่จำเป็นอย่างแท้จริง