top of page

รวมอาชีพยอดนิยมบนเรือสำราญ พร้อมแนวทางการเตรียมตัวสมัครงานจริง

การทำงานบนเรือสำราญ (Cruise Ship) ถือเป็นหนึ่งในอาชีพในฝันของคนรุ่นใหม่ที่รักการท่องเที่ยว ชอบพบปะผู้คน และอยากเปิดประสบการณ์การทำงานในระดับนานาชาติ เพราะนอกจากจะได้รายได้ดี ยังมีโอกาสเดินทางไปทั่วโลกโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง

แต่การได้ทำงานบนเรือสำราญไม่ได้อาศัยเพียงแค่ความตั้งใจเท่านั้น ผู้สมัครจำเป็นต้องมีความรู้และทักษะในงาน ทักษะภาษาอังกฤษ และการฝึกฝนเฉพาะทาง เพื่อให้พร้อมสำหรับการทำงานจริงในสภาพแวดล้อมระดับสากล

เราจะพาไปทำความรู้จักกับ อาชีพยอดนิยมบนเรือสำราญ และ แนวทางการเตรียมตัวสมัครงานจริง สำหรับผู้ที่อยากเริ่มต้นเส้นทางอาชีพสายบริการระดับโลก


อาชีพยอดนิยมบนเรือสำราญ

เรือสำราญเป็นเหมือน “เมืองลอยน้ำ” ที่มีทั้งโรงแรม ร้านอาหาร โรงละคร สระว่ายน้ำ และบริการครบวงจร จึงต้องการบุคลากรหลากหลายสายอาชีพ ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็น 5 กลุ่มหลัก ได้แก่

1. สายงานบริการลูกค้าส่วนหน้า (Guest Services Department)

เป็นกลุ่มอาชีพที่ต้องติดต่อกับผู้โดยสารโดยตรง ต้องมีบุคลิกดี มีความอดทน และสื่อสารภาษาอังกฤษได้คล่องตัวอย่างอาชีพ:

  • เจ้าหน้าที่ต้อนรับ (Guest Relations Officer)

  • พนักงานต้อนรับส่วนหน้า (Receptionist)

  • เจ้าหน้าที่ดูแลผู้โดยสาร (Passenger Service Attendant)

  • เจ้าหน้าที่ขายสินค้า Duty Free

ทักษะสำคัญ:

  • ภาษาอังกฤษเพื่อการบริการ

  • มารยาทในการสื่อสารระหว่างวัฒนธรรม

  • การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าอย่างมืออาชีพ


2. สายงานบริการอาหารและเครื่องดื่ม (Food & Beverage Service Department)

สายงานนี้ถือเป็น “หัวใจหลัก” ของเรือสำราญ เพราะต้องให้บริการอาหารนานาชาติแก่ผู้โดยสารจำนวนมากในทุกวัน

ตัวอย่างอาชีพ:

  • พนักงานเสิร์ฟ (Waiter/Waitress)

  • พนักงานบาร์ (Bartender / Bar Server / Bar Attendant)

  • พนักงานบริการกาแฟ (Barista / Cafe Attendant)

  • พนักงานแนะนำไวน์ (Sommelier / Wine Steward)

ทักษะสำคัญ:

  • ความรู้พื้นฐานด้านอาหารและเครื่องดื่ม

  • ทักษะการบริการและการทำงานเป็นทีม

  • มารยาทและระเบียบในครัวระดับสากล


3. สายงานทำความสะอาดและดูแลห้องพัก (Housekeeping Department)

เป็นงานที่ต้องใช้ความละเอียดรอบคอบและความรับผิดชอบสูง เพราะเกี่ยวข้องกับการดูแลพื้นที่ส่วนตัวของผู้โดยสาร

ตัวอย่างอาชีพ:

  • พนักงานทำความสะอาดห้องพัก (Cabin Steward/Stewardess)

  • พนักงานซักรีด (Laundry Attendant)

  • พนักงานดูแลพื้นที่ส่วนกลาง (Public Area Cleaner / Public Area Attendant)

ทักษะสำคัญ:

  • ความสะอาด ความเรียบร้อย และการจัดการเวลา

  • ความเข้าใจในมาตรฐานโรงแรมระดับ 4–5 ดาว

  • ความอดทนและความตั้งใจในการทำงาน


4. สายงานครัวและเบเกอรี่ (Culinary & Bakery or Kitchen Department)

เหมาะสำหรับผู้ที่มีพื้นฐานด้านอาหาร การทำครัว หรือเบเกอรี่ และอยากพัฒนาฝีมือในระดับสากล

ตัวอย่างอาชีพ:

  • เชฟขนมหวาน (Pastry Chef)

  • ผู้ช่วยพ่อครัว (Commis / Cook Assistant)

  • พนักงานจัดเตรียมวัตถุดิบ (Kitchen Helper)

  • เชฟ / ผู้ช่วยเชฟ (Chef / Cook Assistant)

  • พนักงานล้างจาน (Dishwasher / Galley Steward)

ทักษะสำคัญ:

  • เทคนิคการทำอาหารและขนม

  • ความรู้เรื่องสุขอนามัยและความปลอดภัยในครัว

  • การทำงานภายใต้แรงกดดัน


5. สายงานบันเทิงและสันทนาการ (Entertainment & Recreation Department)

เรือสำราญมักมีโชว์ ดนตรี และกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อสร้างความสนุกให้ผู้โดยสาร จึงต้องการบุคลากรที่มีความสามารถพิเศษ

ตัวอย่างอาชีพ:

  • นักแสดง / นักร้อง / นักดนตรี

  • เจ้าหน้าที่กิจกรรม (Cruise Activity Staff)

  • เจ้าหน้าที่ฟิตเนส / ชายหาด / สระว่ายน้ำ

  • ช่างภาพ (Photographer)

ทักษะสำคัญ:

  • บุคลิกภาพที่เป็นมิตร สดใส

  • ความสามารถเฉพาะตัว เช่น ดนตรี กีฬา หรือศิลปะการแสดง

  • ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารในงานบันเทิง


แนวทางการเตรียมตัวสมัครงานบนเรือสำราญ

1. เตรียมความพร้อมด้านภาษาอังกฤษ

ภาษาอังกฤษเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะลูกเรือจะต้องสื่อสารกับเพื่อนร่วมงานจากหลายประเทศ และผู้โดยสารจากทั่วโลก การเรียนหลักสูตร ภาษาอังกฤษเพื่ออาชีพบริการ (English for Hospitality) จะช่วยเพิ่มความมั่นใจและโอกาสในการผ่านการสัมภาษณ์งาน




2. เรียนรู้หลักสูตรเฉพาะทางที่ได้รับการรับรอง

การเลือกเรียนในสถาบันที่ได้รับการรับรองจากกระทรวงศึกษาธิการ เช่น โรงเรียนมารุสอนอาชีพการเรือสำราญและการโรงแรม (Maru CHOT) จะช่วยให้ผู้เรียนได้รับความรู้ด้านวิชาชีพสายบริการอาหารและเครื่องดื่ม ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ พร้อมฝึกงานจริงในโรงแรมระดับ 4–5 ดาว ก่อนออกสู่ตลาดแรงงานจริงบนเรือสำราญ


3. สร้างประสบการณ์การทำงานบริการ

ก่อนสมัครงานบนเรือสำราญ การมีประสบการณ์ด้านบริการใน โรงแรม 4-5 ดาว จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและโอกาสในการได้รับการพิจารณาจากสายเรือ


4. เตรียมเอกสารและใบรับรองให้พร้อม

ผู้สมัครต้องมีเอกสารสำคัญ เพื่อเตรียมตัวทำงานบนเรือสำราญ (เมื่อสัมภาษณ์งานผ่าน) เช่น

  • หนังสือเดินทาง (Passport)

  • ใบรับรองสุขภาพ (Medical Certificate)

  • ใบรับรองการอบรมความปลอดภัยทางทะเล (STCW Certificate – หากจำเป็น)

  • Resume ภาษาอังกฤษ และรูปถ่ายสุภาพ

  • การตรวจประวัติอาชญากรรม 

  • เอกสาร Seaman Books

  • คะแนนสอบ Marlins Test

  • Visa C1D และ/หรือ Visa Schengen 

  • ใบผ่านงานโรงแรม 4-5 ดาว  

  • อื่นๆ ที่บริษัทเรือสำราญรองขอ




5. สมัครกับบริษัทจัดหางานเรือสำราญที่เชื่อถือได้

หลายบริษัทในประเทศไทยเป็นตัวแทนจัดหางานอย่างเป็นทางการให้กับสายเรือระดับโลก เช่น Royal Caribbean, Carnival Cruise Line หรือ MSC Cruises ซึ่งผู้สมัครควรตรวจสอบข้อมูลบริษัทก่อนสมัคร เพื่อป้องกันการถูกหลอก


รายได้และโอกาสก้าวหน้าในสายอาชีพเรือสำราญ

รายได้ของลูกเรือจะแตกต่างกันไปตามตำแหน่งและสายเรือ โดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 800 – 2,500 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน (ราว 28,000 – 90,000 บาท) และยังได้รับสวัสดิการฟรี เช่น ที่พัก อาหาร และการเดินทาง

เมื่อมีประสบการณ์มากขึ้น ผู้ปฏิบัติงานสามารถเลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้าฝ่าย หรือผู้จัดการแผนกได้ภายในเวลาไม่กี่ปี ซึ่งเป็นเส้นทางอาชีพที่มั่นคงและมีรายได้สูง


สรุป

อาชีพบนเรือสำราญเป็นอาชีพที่เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้ทำงานในสภาพแวดล้อมนานาชาติ พร้อมเรียนรู้วัฒนธรรมจากทั่วโลก ผู้ที่ต้องการเข้าสู่อาชีพนี้ควรเริ่มต้นจากการเตรียมความพร้อมด้านภาษา การเรียนรู้หลักสูตรบริการที่ได้มาตรฐาน และฝึกประสบการณ์จริงในสถานประกอบการระดับโลก

โรงเรียนมารุสอนอาชีพการเรือสำราญและการโรงแรม (Maru CHOT) คือหนึ่งในสถาบันที่เหมาะสมที่สุดสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นอาชีพบนเรือสำราญ เพราะที่นี่มีทั้งหลักสูตรภาษาอังกฤษเพื่อการบริการ การฝึกงานในโรงแรม 5 ดาว และการแนะแนวสมัครงานจริงกับสายเรือชั้นนำระดับโลก

 
 
 

ความคิดเห็น

ได้รับ 0 เต็ม 5 ดาว
ยังไม่มีการให้คะแนน

ให้คะแนน
bottom of page